ai คืออะไร ? AI หรือที่เรียกอีกชื่อว่า ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) คือสาขาหนึ่งของวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มุ่งเน้นการสร้างระบบหรือเครื่องจักรที่สามารถทำงานหรือแก้ปัญหาได้ในลักษณะที่ต้องใช้ปัญญาหรือความสามารถทางสมองของมนุษย์ในการวิเคราะห์และประมวลผล ยกอย่างเช่น
- การเรียนรู้ (Learning)
- การแก้ปัญหา (Problem Solving)
- การวิเคราะห์และตีความข้อมูล (Data Analysis)
- การเข้าใจภาษามนุษย์ (Natural Language Understanding)
- การรับรู้ภาพ (Image Recognition)
- การตัดสินใจ (Decision Making)
ประเภทของ AI มีอะไรบ้างและ ai ทําอะไรได้บ้าง ?
- Artificial Narrow Intelligence (ANI): เป็น AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะด้าน เช่น การแปลภาษา, การเล่นหมากรุก, หรือระบบแนะนำหนังในแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งยกตัวอย่างเช่น Netflix , HBO GO เป็นต้น
- Artificial General Intelligence (AGI): เป็น AI ที่มีความสามารถในการทำงานหรือแก้ปัญหาได้หลากหลายเหมือนกับมนุษย์ แต่ยังคงอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาในปัจจุบันยังไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ 100% นั่นเอง
- Artificial Superintelligence (ASI): เป็น AI ที่มีความสามารถทางปัญญาสูงกว่ามนุษย์ในทุกด้าน ทั้งด้านความรู้, ทักษะ, และการตัดสินใจ ในปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการคิดค้นและยังไม่มีการพัฒนา ASI แต่ในอนาคตอันใกล้ทุกคนจะได้รู้จักและสัมผัสอย่างแน่นอน
การประยุกต์ใช้งานของ AI ในด้านต่างๆ ของมนุษย์
- การแพทย์: ใช้ในการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์, การวินิจฉัยโรค, การค้นคว้ายาชนิดใหม่
- การเงิน: ระบบตรวจจับการทุจริต, การวิเคราะห์คาดการณ์ตลาดหุ้น, การบริหารจัดการสินทรัพย์
- การศึกษา: การสอนแบบเฉพาะบุคคล, การสร้างบทเรียนที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้เรียน
- การขนส่ง: รถยนต์ไร้คนขับ, การวางแผนเส้นทางการเดินทาง
- การบริการลูกค้า: แชทบอท, ระบบตอบรับอัตโนมัติ, ระบบการ CF ของ และอื่นๆ อีกมากมาย
จากที่กล่าวไปข้างต้น AI เริ่มที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีและบริการต่างๆ ที่ช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การพัฒนา AI ยังต้องพิจารณาด้านจริยธรรมและความปลอดภัยเพื่อให้การใช้งาน AI ของมนุษย์เป็นไปได้ด้วยความสะดวกสบายและปลอดภัยนั่นเอง
5 ข้อดีและข้อเสียของ Ai ที่คุณควรรู้
การใช้งาน Ai ในการเข้ามาช่วยการทำงานหรือหาคำตอบในชีวิตประจำวันในสมัยนี้เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับการยอมรับซึ่งหลายๆ คนอาจจะมองเห็นในด้านที่ดีเพียงด้านเดียวทำให้มองไม่เห็นถึงผลเสียของ Ai โดยในวันนี้ทางเรา
ข้อดีของ AI
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณ : AI สามารถวิเคราะห์และค้นหาข้อมูลที่ซับซ้อนได้รวดเร็วกว่ามนุษย์สามารถนำมาใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ ยกตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ข้อมูล, การตรวจจับข้อผิดพลาด, การผลิตสินค้า
- ความแม่นยำสูง: AI สามารถทำงานที่ต้องใช้ความแม่นยำสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การวินิจฉัยโรคต่างๆ, การตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์, การวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์
- การทำงานต่อเนื่อง: AI สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องพักผ่อน ทำให้การผลิตหรือการบริการสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
- การลดต้นทุน: การใช้ AI ช่วยลดต้นทุนด้านแรงงานและเวลาที่ใช้ในการทำงาน
- การตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ: AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลในจำนวนมากเพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจหรือการวางแผนกลยุทธ์
ข้อเสียของ AI
- การทดแทนแรงงานมนุษย์: การใช้ AI ในการทำงานบางประเภทอาจทำให้มนุษย์อย่างเราเสียงานให้ Ai ได้ ยกตัวอย่างเช่น งานที่เกี่ยวข้องกับการผลิต, งานบริการ
- ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย: การเก็บและการวิเคราะห์ข้อมูลโดย AI อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
- ความไม่สมบูรณ์ของ AI: AI ยังมีข้อจำกัดในด้านการเข้าใจบริบทบางอย่างของมนุษย์อย่างเรา เยกตัวอย่างเช่น ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในระดับสูง
- การพึ่งพาเทคโนโลยี: การใช้ AI มากเกินไปอาจทำให้มนุษย์ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีไปตลอด และส่งผลให้เกิดปัญหาเมื่อระบบ AI มีปัญหา ทำให้มนุษญ์ไม่สามารถทำงานได้ด้วยตนเอง
- ต้นทุนการพัฒนาและการบำรุงรักษา: การพัฒนาและบำรุงรักษาระบบ AI ต้องใช้ต้นทุนสูง ทั้งในด้านการเงินและทรัพยากรมนุษย์
ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม : การพัฒนา AI มีผลดีและผลเสียที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การใช้งาน AI เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อสังคมและมนุษย์ในระยะยาว
การใช้งาน Ai ในด้านต่างๆ ของมนุษย์
มนุษย์มีการนำ Ai เข้ามาใช้งานมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของธุรกิจ หรือในด้านการแพทย์ และยังมีด้านอื่นๆ อีกมากมายที่คุณอาจจะไม่เคยได้ทราบมาก่อนโดยในวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับการใช้งาน Ai ของมนุษย์ในด้านต่างๆ โดยจะมีด้านไหนบ้างนั้นไปลุยกันเลย
1. แอปพลิเคชัน AI ในชีวิตประจำวัน
- แชทบอท: ใช้ในด้านการให้บริการลูกค้าตอบคำถามพื้นฐานหรือแก้ไขปัญหาที่พบทั่วไป ตัวอย่างเช่น ChatGPT หรือแชทบอทบนเว็บไซต์ต่างๆ บนโลกออนไลน์
- ผู้ช่วยเสมือน: เช่น Google Assistant, Siri, หรือ Alexa ที่ช่วยในการตั้งเตือน, การค้นหาข้อมูล, การควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม
- การแปลภาษา: แอปพลิเคชันอย่าง Google Translate ที่ใช้ AI ในการแปลภาษาต่างๆ
2. การใช้งาน AI ในด้านธุรกิจ
- การวิเคราะห์ข้อมูล: ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจเพื่อช่วยในการตัดสินใจ ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์แนวโน้มการตลาด, การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า
- การตลาด: ใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ, การปรับแต่งการโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เช่น การใช้ Copy.ai
- การจัดการสินค้าคงคลัง: ใช้ AI ในการทำนายความต้องการสินค้าและการจัดการสินค้าคงคลัง
3. การใช้งาน AI ในด้านการแพทย์
- การวินิจฉัยโรค: ใช้ AI ในการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ เช่น X-ray, MRI เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค
- การค้นคว้ายา: ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางชีววิทยาเพื่อค้นหาสารเคมีใหม่ๆ ที่สามารถพัฒนาเป็นยาได้
4. การใช้งาน AI ในด้านการศึกษา
- การเรียนการสอนออนไลน์: ใช้ AI ในการสร้างสื่อการสอนแบบเฉพาะบุคคล, การตรวจสอบความก้าวหน้าของนักเรียน
- การช่วยเหลือในการทำการบ้าน: แอปพลิเคชันอย่าง Socratic ที่ใช้ AI ในการช่วยนักเรียนแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และวิชาอื่นๆ
5. การใช้งาน AI ในการพัฒนาซอฟต์แวร์
- การเขียนโค้ด: เครื่องมืออย่าง GitHub Copilot ที่ใช้ AI ในการแนะนำโค้ดหรือช่วยในการเขียนโค้ด
- การทดสอบซอฟต์แวร์: ใช้ AI ในการสร้างกรณีทดสอบและตรวจสอบความถูกต้องของซอฟต์แวร์
ตัวอย่างการใช้งาน AI โดยใช้แพลตฟอร์มและเครื่องมือ
- ใช้แชทบอท (Chatbot): สมัครใช้บริการ ChatGPT บนเว็บไซต์ OpenAI จากนั้นสามารถตั้งค่าแชทบอทบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของคุณ
- ใช้ผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistant): ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Google Assistant, Siri หรือ Alexa บนอุปกรณ์มือถือ จากนั้นตั้งค่าตามคำแนะนำและใช้งานโดยการออกคำสั่งเสียง
- การแปลภาษา (Translation): ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Google Translate แล้วใช้งานโดยการพิมพ์หรือพูดประโยคที่ต้องการแปลลงในแอป
- การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis): ใช้เครื่องมืออย่าง Microsoft Power BI หรือ Tableau ที่ผสาน AI สำหรับการวิเคราะห์และสร้างรายงานข้อมูล
สรุป
การใช้ AI สามารถปรับใช้ในหลายสถานการณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาที่ใช้ในการดำเนินงานต่างๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการและวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งาน แต่ถึง Ai จะมีประโยชน์มากขนาดไหนก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะต่างๆ ของมนุษย์ที่ Ai ไม่สามารถทำได้ก็คือการคิดสิเคราะห์เชิงลึก อารมณ์แลความรู้สึกต่างๆ ที่มีเพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่เข้าใจและสามารถทำออกมาได้ดีกว่าอย่างแน่นอน ดังนั้นการพึ่งพา Ai เป็นหลักอาจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักเพราะหากวันใดวันหนึ่งที่ไม่มีมันอาจจะทำให้คุณไม่กล้าที่จะริเริ่มสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ นอกจากนี้การใช้งาน Ai ที่ดีควรใช้เป็นเครื่องมือในการเข้ามาเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของคุณไม่ใช่เป็นเครื่องมือหลัก เพราะคนที่อยู่เหนือ Ai ก็คือมนุษย์ผู้สร้างมันขึ้นมานั่นเอง