เมื่อพูดถึงการสร้างเว็บไซต์ มีแพลตฟอร์มมากมายที่สามารถช่วยให้เราสร้างและพัฒนาเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องมีทักษะในการเขียนโค้ดมากมาย สองแพลตฟอร์มยอดนิยมที่มักถูกนำมาเปรียบเทียบกันคือ WordPress กับ Wix ซึ่งทั้งสองมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป แล้วระหว่างสองนี้ อันไหนดีกว่าสำหรับเว็บไซต์ของคุณ? วันนี้ทางเรา Horispire จะพาคุณไปหาคำตอบกันว่าธุรกิจหรือไลฟ์สไตล์ของคุณเหมาะกับอันไหนมากกว่ากัน หากพร้อมแล้วไปลุยกันเลย
1. ความยืดหยุ่นในการออกแบบ
- WordPress: มีความยืดหยุ่นสูงมาก เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มแบบโอเพนซอร์ส คุณสามารถปรับแต่งธีมและปลั๊กอินได้อย่างไม่จำกัด รวมถึงสามารถเขียนโค้ดเพื่อสร้างฟีเจอร์เพิ่มเติมตามความต้องการ หรือจะเรียกง่ายๆ ว่าสามารถปรับแต่งได้ตามจินตนาการของคุณเลยนั่นเอง
- Wix: ใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น โดยมีเครื่องมือ Drag & Drop ที่ทำให้การออกแบบเว็บไซต์ไม่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งจะน้อยกว่า WordPress เพราะ Wix มีข้อจำกัดในการเข้าถึงโค้ดเบื้องหลังของเว็บไซต์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่เพิ่งเข้าสู่วงการการสร้างเว็บไซต์เพราะรายระเอียดในการจัดทำค่อนข้างไม่ซับซ้อนสามารถปรับแต่งได้ด้วยตัวคุณเอง
2. ความง่ายในการใช้งาน
- WordPress: หากคุณไม่มีประสบการณ์ในการสร้างเว็บไซต์มาก่อน การใช้ WordPress อาจมีความซับซ้อน เนื่องจากคุณจะต้องตั้งค่าโดเมน, โฮสติ้ง และจัดการปลั๊กอินต่าง ๆ แต่เมื่อคุณชำนาญแล้ว WordPress จะมอบความสามารถให้คุณได้สร้างเว็บไซต์ที่ซับซ้อนตามต้องการ และสามารถปรับแต่ให้เข้าใกล้ความต้องการของคุณได้มากที่สุด
- Wix: เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิคมากมาย คุณสามารถเลือกธีมแล้วเริ่มออกแบบเว็บไซต์ได้ทันที หากเปรียบเทียบกันแบบหมัดต่อหมัดในเรื่องความง่ายในการใช้งาน Wix ถือว่าชนะขาด
3. SEO (Search Engine Optimize)
- WordPress: มีปลั๊กอินมากมาย เช่น Yoast SEO ที่ช่วยให้การปรับแต่ง SEO ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น WordPress เหมาะกับการจัดอันดับ SEO เนื่องจากคุณสามารถควบคุมโครงสร้าง URL, meta tags และอื่น ๆ ได้อย่างอิสระ สามารถนำเว็บของคุณเข้าสู่ Search Console เพื่อรับการจัดอันดับได้อีกด้วย
- Wix: มีเครื่องมือ SEO ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง SEO ได้ง่าย ๆ แต่ในบางกรณี ความสามารถในการปรับแต่ง SEO ของ Wix อาจจะน้อยกว่า WordPress เพราะไม่มีการเข้าถึงโค้ดลึกๆ นั่นเอง
4. ความสามารถในการขยายตัวของเว็บไซต์
- WordPress: เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ เช่น บล็อกที่มีการโพสต์เนื้อหาบทความจำนวนมาก ร้านค้าออนไลน์ หรือเว็บไซต์ที่ต้องการฟีเจอร์ซับซ้อน เนื่องจาก WordPress สามารถรองรับจำนวนผู้ใช้งานและเนื้อหาได้มาก สามารถขยับขายได้หลากหลาย
- Wix: เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เช่น เว็บไซต์สำหรับธุรกิจส่วนตัว หรือพอร์ตโฟลิโอ แต่หากเว็บไซต์ของคุณเติบโตขึ้นจนถึงขนาดใหญ่ การจัดการและการปรับแต่งใน Wix อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต แต่หากคุณต้องการแค่ พอร์ตโฟลิโอ ไว้สะสมผลงาน Wix ก็ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี
5. ค่าใช้จ่าย
- WordPress: แม้ว่าตัวแพลตฟอร์ม WordPress จะฟรี แต่คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับโฮสติ้ง การซื้อโดเมน ซื้อธีมพรีเมียม และปลั๊กอินบางตัว อย่างไรก็ตาม คุณสามารถควบคุมงบประมาณได้ตามความต้องการและการขยายตัวของเว็บไซต์
- Wix: เสนอแพ็คเกจต่าง ๆ ที่มีราคาคงที่ ซึ่งทำให้การควบคุมค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องง่าย แพ็คเกจจะรวมทั้งโฮสติ้งและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่คุณต้องการ ดังนั้น หากคุณต้องการความสะดวกและค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน Wix อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะครบจบเพียงจ่ายเงินรอบเดียวเท่านั้น
สรุป WordPress กับ Wix อันไหนดีกว่า?
การเลือกใช้ระหว่าง WordPress กับ Wix ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ หากคุณต้องการสร้างเว็บไซต์ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถลงบทความและปรับแต่งได้ไม่จำกัด และมีแผนการขยายธุรกิจในอนาคต WordPress อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าคุณต้องการความง่าย ความสะดวก สร้างพอร์ตโฟลิโอ และมีแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้ทันที Wix ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
ท้ายที่สุดแล้วการเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะของเว็บไซต์และเป้าหมายที่คุณต้องการนั่นเอง และสำหรับใครที่ต้องการสร้าง WordPress กับ Wix เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงของลุกค้าออนไลน์สามารถติดต่อพวกเรา Horispire ได้แล้ววันนี้เราพร้อมให้คำปรึกษาฟรี ออกแบบตามความต้องการของคุณแบบระเอียดทุกจุดเพิ่มยอดขายแบบเห็นผลได้จริง